อาจารย์ นิพนธ์ จังกินา ศิลปินวาดภาพท่านนี้ เป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี และขณะนี้ใช้ชีวิตและทำงานศิลปะอยู่ที่ จ.ภูเก็ต
อาจารย์นิพนธ์ มีผลงานทางศิลปะมาแล้วมากมาย รวมถึงงานปฏิมากรรมขนาดเล็ก ภาพวาดที่สร้างชื่อ ได้แก่ ภาพวาดในชุด ‘กงล้อแห่งทางสายดำ’
ในภาพวาดของ นิพนธ์ จังกินา คือกงล้อที่หากใครหลงเชื่อและคล้อยตาม ย่อมขาดสติ นำพาชีวิตไปสู่ด้านที่มืดดำ หรือ ตกต่ำ ตัวอย่างภาพชุดดังกล่าว อาจารย์ นิพนธ์ต้องการให้ภาพวาดชุดนี้ของเขาสะท้อนว่า ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่อาศัยศาสนา เป็นช่องทางในการแสวงหาผลประโยชน์
“ตัวเราไม่ได้มีเจตนาทำร้ายศาสนา แต่ด้วยความที่เราคลุกคลีอยู่กับวัดมาตั้งแต่เด็ก ในด้านหนึ่งเราก็ได้สัมผัสในสิ่งที่นำศาสนาไปสู่ความเสื่อม อาศัยศาสนาเป็นช่องทางในการให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์บางสิ่งบางอย่าง บิดเบือนพระธรรมคำสอน ชักจูงให้คนลุ่มหลงในอภินิหาร เวทมนตร์ ไสยศาสตร์ อวดอุตริ ทำผิดกฎของสงฆ์ ไม่ปฏิบัติตนอยู่ในศีล 227 ข้อ แม้แต่ศีล 5 ยังรักษาไม่ครบ”
คนกลุ่มนี้สำหรับนิพนธ์จึงเปรียบเหมือน บัวเหล่าที่ 4 ที่ติดอยู่ในโคลนตม ไม่สามารถโผล่พ้นน้ำ เพราะตกเป็นทาสของกิเลส ตัณหา ราคะ ความโกรธ ความโลภ และความหลง
“คนกลุ่มนี้ในภาพวาดของผม จึงมีศีรษะเป็นรูปดอกบัว เพราะไม่มีตา หู จมูก ปาก ไม่ว่าใครจะสอนธรรมให้อย่างไรก็ไม่สามารถรับได้” อาจารย์นิพนธ์กล่าว …
นอกจากนี้ อาจารย์นิพนธ์ ยังมีปฏิมากรรมขนาดเล็กหรือศฺิลปะมงคล “เอกนาคราช” ที่ร่่วมกันรังสรรค์ กับ E’SAC ที่เป็นกลุ่มศิลปินรุ่นใหม่ ที่รวมตัวกันขึ้น เพื่อสร้างแกลอรี่ ทั้งภาพวาด ปฏิมากรรม และงานศิลปะต่างๆ ด้วย เส้นทางของอาจารย์นิพนธ์ จังกินา ยังคงมีรังสรรค์ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเน้นไปที่การวาดภาพเป็นหลัก ในปัจจุบัน
นับว่าท่านเป็นฺศิลปินรุ่นใหม่ ที่มีเอกลักษณ์ในการวาดภาพเฉพาะตัว หลายคนว่าดุดัน เหมือนอาจารย์ ถวัลย์ ดัชนี แต่หลายคนก็ว่าภาพวาดของเขา คมสวย ดุจ อาจารย์ เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ แต่แท้ที่จริงแล้ว เป็นเอกลักษณ์ของอาจารย์นิพนธ์ เอง ที่มีทั้งคามดุดัน และสวยงาม ชัดเจน แฝงนัยยะทางแง่คิด ทั้งทางศาสนา และแนวคิดแบบไทยๆ ได้อย่างครบถ้วน จึงเป็นศิลปินที่ “สุดยอด” และน่าจับตามอง ในอนาคตที่จะก้าวเป็นศิลปินแห่งชาติได้อย่างแน่นอน